“เขาพร้อมลงเล่น ทุกคนมีความสุขมาก โดยเฉพาะโคลเองเพราะนักฟุตบอลต้องการลงสนามและซ้อมอย่างต่อเนื่อง เขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของเรา และเราดีใจที่เขากลับมา” มาเรสก้ากล่าว พร้อมเสริมว่าต้องให้เวลาฟื้นความฟิตเต็มร้อย

ก่อนหน้านี้กุนซือเชลซีเคยบอกว่าเกมวันอาทิตย์นี้อาจเร็วเกินไปสำหรับพาลเมอร์ แต่การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นแรงเสริมสำคัญ เพราะทีมกำลังไล่จี้อาร์เซนอลอันดับหนึ่ง และมีโอกาสลดช่องว่างคะแนนเหลือเพียง 3 คะแนนหากคว้าชัยได้

พาลเมอร์ลงสนามครั้งล่าสุดตั้งแต่เกมแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อ 20 กันยายน โดยเชลซีลงเล่นไปแล้ว 13 นัดตั้งแต่นั้นและชนะถึง 10 เกม แสดงให้เห็นว่าทีมไม่ใช่ “Cole Palmer FC” อีกต่อไป แม้เขาคือดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรสองฤดูกาลหลัง (22 และ 15 ประตู)

ขณะพาลเมอร์เจ็บ ดาวรุ่งใหม่อย่าง เอสเตวาว วิลเลียน ทำผลงานโดดเด่นซัดไป 5 ประตู และอาจได้จับคู่กับพาลเมอร์ในอนาคต โดยมาเรสก้าระบุว่า “ขึ้นอยู่กับแผนการเล่น แต่ทั้งคู่ตื่นตาตื่นใจมาก”

อย่างไรก็ดี การกลับมาของพาลเมอร์ยังสร้างความปวดหัวในการจัดทีมเมื่อ เชลซีมีตัวเลือกแนวรุกฟอร์มแรงเพียบ ทั้ง เปโดร เนโต้, เจมี่ กิตเทนส์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่นำโด่งด้านประตูและแอสซิสต์

ทีมชุดที่แฟนบอลอยากเห็นอาจเป็น เปโดร ยืนหน้าเป้า เนโต้ฝั่งซ้าย พาลเมอร์ยืนเบอร์ 10 และเอสเตวาวทางขวา แต่ในเกมระดับนี้ มาเรสก้าอาจเลือกความรัดกุม ส่งแนวรุกชุดเนโต้–เฟร์นานเดซ–การ์นาโช่–เปโดร ลงก่อน แล้วเก็บพาลเมอร์กับเอสเตวาวไว้เป็นตัวทีเด็ดในครึ่งหลัง

เชลซีจะเปิดบ้านรับอาร์เซนอลในเกมซูเปอร์ซันเดย์ เวลา 23.30 น. ตามเวลาไทย.